1.        1.     ข้อใดคือจุดมุ่งหมายของศาสนาทุกศาสนา

ก.มุ่งสอนให้เชื่อในเรื่องวิญญาณ                               

ข.มุ่งสอนให้นับถือพระเจ้า

ค.  มุ่งสอนให้ทุกคนทำความดี  ละเว้นความชั่ว

ง.   มุ่งสอนให้เชื่อในเรื่องชาติภพ

2.       2.      ข้อใดอยู่ในความหมายของค่านิยมพื้นฐาน

ก.  การพึ่งตนเอง                                              

ข.  การประหยัดและออม

ค.   ความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์                      

ง.  ถูกทุกข้อ

3.        3.   คำสอนที่สำคัญของศาสนาพุทธเรียกว่าอะไร

ก.      การเชื่อมในพระเจ้า                   

ข.  ข้อปฏิบัติ 5  ประการ

ค.   โอวาท  3       ง.  หลักศรัทธา  6  ประการ

4.             ข้อใดไม่ใช้ลักษณะของผู้ที่มีการอ่อนน้อมถ่อมตน

ก.มีความสงบเสงี่ยม                    ข.  เจียมตน

ค.   ถือตัว                                       ง.  ไม่เย่อหยิ่ง

5.  พระพุทธเจ้าทรง  ปลงอายุสังขาร  ตรงกับวันใด

                ก.  15  ค่ำ  เดือน  3            ข.  15  ค่ำ  เดือน  6

                ค.  15  ค่ำ  เดือน  7            ง.  15  ค่ำ  เดือน  3

6.  ในวันที่พระพุทธเจ้าจะปรินิพพานมีปริพาชาดกอยากถามปัญญาธรรมกับพระพุทธเจ้า  ริพาชาดกคนนั้นชื่อว่าอะไร

                ก.  จุนทะ                         ข.  สุภัททะ

                ค.  สุภิทัศ                         ง.  สุภาทิ

7.  พระพุทธเจ้าทรงสรุปพระโอวาทที่ได้ประทานมาตลอด  45  พรรษาลงในอะไร

                ก.  ความซื่อตรง                  ข.  ความพากเพียร

                ค.  ความบริสุทธิ์                 ง.  ความไม่ประมาท

8.  สถานที่ที่พระพุทธเจ้าเสด็จเข้าสู่ปรินิพพาน  คือที่ใด

                ก.  อุทยานลุมพินี  ประเทศเนปาล                     

ข.  ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์  ที่ตำบลพุทธคยา

                ค.  ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน  ประเทศอินเดีย     

ง.  สาวโลโนทยาน  เมืองกุสินารา  ประเทศอินเดีย

9.  ก่อนที่พระเจ้าทีฆีติและพระมหเสีจะถูกประหารใครที่เป็นผู้พูดว่า  จงเห็นแก่ยาว  อย่าเห็นแก่สั้น  เวรย่อมไม่ระงับเพราะจองเวร  แต่ระงับเพราะไม่จองเวร

                ก.  พระเจ้าพรหมทัต          ข.  ทีฆาวุกุมาร

                ค.  นายช่างปั้นหม้อ           ง.  นายช่างกัลบก

10.  ข้อใดที่ทีฆาวุกุมารไม่ฆ่าพระเจ้าพรหมทัต

   ก.  ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต                                               

   ข.  เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร

   ค.  มีความเมตตากรุณา      ง.  มีความกตัญญูกตเวที

11.  ทำไมสุนัขจิ้งจอกในเรื่องสัพพทาฐิชาดก  จึงควบคุมสัตว์ป่าได้

ก.  เพราะสุนัขจิ้งจอกมีกำลังมาก                      

ข.  เพราะสุนัขจิ้งจอกเป็นผู้นำที่ดี

                   ค.  เพราะท่องให้สำหรับกล่อมให้คนอื่นเชื่อฟัง

ง.  เพราะสัตว์ป่ากลัวสุนัขจิ้งจอก

12.  สมเด็จพระสมณเจ้า  กรมพระปรมานุชิตชิโนรส  ได้ทรงคิดแบบพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ถวายพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว  

ถึงกี่ปาง

                ก.  35  ปาง                           ข.  36  ปาง

                ค.  37  ปาง                           ง.  38  ปาง

13.  ข้อใดที่เชื่อว่าสัตว์มีกรรมเป็นของตน

                ก.  ตถาคตโพธิสัทธา          ข.  กัมมสัทธา

                ค.  วิปากสัทธา                   ง.  กัมมัสสกตาสัทธา

14.  การฝึกฝนอบรมจิตใจให้บริสุทธิ์สะอาด  ไม่เศร้าหมองด้วยกิเลส  คือไตรสิกขาขั้นใด

                ก.  การศึกษาขั้นศีล                                                           

                ข.  การศึกษาขั้นสมาธิ

                ค.  การศึกษาขั้นปัญญา                                     

              ง.  ไม่มีข้อถูก

15.  ความเคารพในพระศาสดา  หรือพุทธคารวตา  ความเคารพในพระพุทธเจ้า

       คือคารวตาธรรมข้อใด

                ก.  สิกขาคารวตา                 ข.  อัปปมาทคารวตา

                ค.  สังฆคารวตา                   ง.  สัตถุคารวตา

16.  ทำให้เสียทรัพย์ ก่อการทะเลาะวิวาท  เกิดโรค เสียชื่อเสียง ไม่รู้จักอาย และบั่นทอนกำลังปัญญา  คือโทษของอบายมุขข้อใด

                ก.  ชอบเที่ยวกลางคืน                                                     

                ข.  ดื่มสุราและสิ่งเสพติดของมึนเมา

                ค.  ชอบเที่ยวดูการละเล่น    ง.  เล่นการพนัน

17.  ในฐานะศาสนิกชนที่ดีควรปฏิบัติตน อย่างไร

ก.      ทำลายสาธารณะสมบัติในวัด                           

ข.  รักษาศีล ปฏิบัติธรรมยึดมั่นในคำสอน

ค.  ล้อเลียนเหยียดหยามผู้ที่นับถือศาสนาอื่น      

ง.  ลบหลู่ศาสนาอื่น

18.  บุคคลแบบใดไม่ควรคบเป็นเพื่อน

ก.ให้ความเคารพพ่อแม่ของเรา                        

ข.  เมื่อมีใครมาพูดจาให้ร้ายเราก็รับฟังไว้เฉย ๆ

ค.  เมื่อเราลำบากก็ให้ความช่วยเหลือ     

ง.  เมื่อเราไม่อยู่ก็คอยดูแลทรัพย์สินของเรา

19.  ศาสนิกชนที่ดีควรปฏิบัติตนอย่างไร

ก. รักษาศีล                 ข. ปฏิบัติธรรม

ค. ยึดมั่นในคำสอน    ง. ถูกทั้งข้อ ก ข และ ค

20.  การมีความเอื้อเฟื้ออย่างจริงใจ คือการทำอย่างไร

ก.  ให้เพื่อนลอกการบ้านเพราะกลัวเพื่อนแกล้ง 

ข. แบ่งของเล่นให้เพื่อนเล่น

ค. ให้เพื่อนยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ย                            

ง. ช่วยเพื่อนทำงานเพราะเพื่อนให้ค่าตอบแทน

21.  การฝึกสมาธิคืออะไร

ก.      การนั่งขัดสมาธิแล้วหลับตาภาวนา

ข.      การฝึกควบคุมจิตให้แน่วแน่อยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งนาน ๆ

ค.      การนั่งหลับตาภาวนา

การนั่งขัดสมาธิภาวนา

22.  อัปปนาสมาธิ หมายถึงข้อใด

ก.      สมาธิที่แน่วแน่            ข.  สมาธิที่กำลังแน่วแน่

ค.   สมาธิที่เข้าสู่ความสงบ       ง.  ถูกทั้ง  ก  และ  ค

23.  การเจริญปัญญาหมายถึงอะไร

ก.      การรวมพลังจิต 

ข.      การฝึกจิตให้อ่อนไหว

       ค.  การฝึกจิตให้รู้จักคิด  ง.  การทำให้มีสติสมบูรณ์

24.  ผู้ที่ได้รับการฝึกสติที่ดีจะมีลักษณะอย่างไร

ก.      ตื่นนอนแต่เช้าทำงานตามหน้าที่                    

ข.  ชอบนั่งเหม่อลอยบ่อย ๆ

ค.  ชอบลอกเลียนแบบผู้อื่น       

ง.  ชอบหลง ๆ ลืม ๆ

25.  ข้อใดเป็นการปฏิบัติให้เป็นผู้มีปัญญา

ก.      สัมมาสมาธิ                          ข.  สัมมาทิฐิ

ค.   สัมมาสติ                             ง.  สัมมาวาจา

26.  การมีศีลในไตรสิกขา คือข้อใด

ก.      การทำใจให้บริสุทธิ์            ข.  การทำความดี

ค.   การละเว้นความชั่ว             ง.  ถูกทุกข้อ

27.  อริยสัจ  4  เป็นหลักธรรมสำหรับนำปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องใด

ก.      เกี่ยวกับการกระทำความดี

ข.      เกี่ยวกับความรัก ความเมตตาเพื่อนมนุษย์

ค.      เกี่ยวกับการดับทุกข์ หรือการแก้ปัญหาในชีวิต

ง.       เกี่ยวกับการรักษาสัจจะ

28. ในฐานะที่เราเป็นพุทธมามกะ เราควรปฏิบัติอย่างไร

                ก. ช่วยกันบูรณะวัดอยู่เสมอ

              ข. ช่วยกันบริจาคเงินเพื่อบำรุงวัด

                ค. หมั่นตักบาตรอยู่เสมอ        ง. ถูกทั้ง ข้อ ก ข และ ค

29. จุดมุ่งหมายของศาสนาทุกศาสนาคืออะไร

                ก. มุ่งสอนให้นับถือพระเจ้า                                            

ข. มุ่งสอนให้ทุกคนทำความดีละเว้นความชั่ว

ค. มุ่งสอนให้เชื่อในเรื่องวิญญาณ  

ง. มุ่งสอนให้เชื่อในเรื่องชาติกำเนิด

30. บัญญัติ 10 ประการเป็นคำสอนของศาสนาใด

                ก. คริสต์                ข. อิสลาม

                ค. พุทธ                  ง. พราหมณ์ – ฮินดู

31.  การบริจาคทรัพย์ตามอัตราส่วนที่กำหนด  คือหลักปฏิบัติข้อใดของศาสนาอิสลาม

                ก.  การปฏิญาณตน             ข.  การทำละหมาด

              ค.  การทำชะกาต              ง.  การประกอบพิธีฮัจญ์32.  มหาเทพผู้สร้างในศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู  คือใคร

                ก.  พระพรหม                     ข.  พระวิษณุ

                ค.  พระนารายณ์                 ง.  พระศิวะ

33.  วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เราควรปฏิบัติอย่างไร

                ก. จัดงานรื่นเริง        ข. ทำความสะอาดบ้านเรือน

                ค. ทำบุญตักบาตร       ง. ประดับธงชาติ

34.  การประกอบพิธีฮัจญ์ของศาสนาอิสลามจะกระทำที่ใด

ก.  มัสยิด                              ข.  นครเมกกะ

ค.  ที่ใดก็ได้                          ง.  ภายในบ้าน

35.  การทำละหมาด  ในศาสนาอิสลามทำวันละกี่เวลา

ก.  2  เวลา                            ข.  3  เวลา

ค.  4  เวลา                            ง.  5  เวลา

36.  ศีลจุ่ม  ในศาสนพิธีสำคัญสำคัญของศาสนาคริสต์คือข้อใด

ก.  ศีลกำลัง                          ข.  ศีลอภัยบาป

ค.  ศีลล้างบาป                     ง.  ศีลมหาสนิท

37.  พิธีเซ่นสรวงสังเวยบรรพบุรุษ  คือศาสนพิธีใดของศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู

ก.  พิธีภักติโยคะ                 ข.  พิธีชญานโยคะ

ค.  พิธีบูชาเทวดา                ง.  พิธีศราทธ์

38.  พระพุทธเจ้าตรัสกับใครว่า “ธรรมและวินัยที่เราแสดงไว้  บัญญัติไว้จักเป็นศาสดาของเธอทั้งหลาย  หลังจากเราล่วงลับไป” 

                ก.  พระสารีบุตร                  ข.  พระโมคคัลลานะ

                ค.  พระอานนท์                   ง.  พระโกณทัญญะ

39.  เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว  บรรดาพุทธบริษัททั้งหลายต่างภากันเศร้าโศก  ใครเป็นผู้ออกมาปลอบโยนผู้คนทั้งหลายให้คลายความโศกเศร้า

                ก.  พระอนุรุทธะ                                ข.  พระอานนท์

                ค.  พระสารีบุตร     ง.  ข้อ  ก  และ  ข  ถูกต้อง

40.  ใครมาถวายอภิวาทแล้วเพลิงก็ลุกโชนขึ้นเอง  การถวายพระเพลิงพรพุทธสรีระจึงเริ่มขึ้น

                ก.  พระอานนท์                   ข.  พระสารีบุตร

               ค.  พระโกณทัญญะ       ง.  พระมหากัสสปเถระ